ทั้งนี้เป็นที่ประจักษ์ว่าสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มีพระราชดำริให้จัดตั้งพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ เพื่อเป็นแหล่งศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับผ้าไทย และประวัติศาสตร์เครื่องแต่งกายของคนไทย พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ จึงเป็นสถานที่รวบรวมจัดเก็บรักษาผ้าไทย และเอกสารที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนจัดแสดงงานหัตถศิลป์จากผ้าอันทรงคุณค่าของราชสำนักและผ้าพื้นเมืองต่างๆ เพื่อสืบสานพระราชปณิธานในการอนุรักษ์การทอผ้าของไทย ให้คงอยู่เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของชาติสืบไป
งานนี้มีความพิเศษเป็นอย่างมากที่พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้นำผลิตภัณฑ์ชิ้นพิเศษมาร่วมจัดแสดง พร้อมจำหน่ายนอกสถานที่เป็นป็อบอัพครั้งแรก พบกับผลิตภัณฑ์พิเศษ อาทิ ผลิตภัณฑ์ที่ได้แรงบันดาลใจจากผ้าบาติกสะสมในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว คือ “กระบอกน้ำเก็บอุณหภูมิ” ตกแต่งด้วยลวดลายปารัง ลักษณะคล้ายกริช ถือเป็นลวดลายผ้าบาติกที่สงวนไว้สำหรับชนชั้นสูง มีสีเงิน และสีทอง, “กรอบรูปลายปารัง เคมบัง” ซึ่งเป็นลายผ้าบาติกที่นิยมมากในพื้นที่ชวากลางโดยเฉพาะราชสำนักยอกยาการ์ตาและสุราการ์ตา และ “ลายสิริกิติ์” ซึ่งเป็นลายที่ออกแบบขึ้นจากพระสิริโฉม และพระจริยวัตรอันงดงามของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มี ๒ ขนาด ได้แก่ ขนาด ๓*๓ นิ้ว และขนาด ๕*๗ นิ้ว, “ผ้าพันคอ” ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากผ้าบาติกเขียนทอง หนึ่งในวัตถุไฮไลต์ในนิทรรศการผ้าบาติกในพระปิยมหาราช สายสัมพันธ์สยามและชวา ซึ่งจัดแสดงผ้าบาติกที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทรงซื้อและมีผู้ทูลเกล้าฯ ถวาย ระหว่างการเสด็จเยือนชวา ทั้ง ๓ ครั้ง, “ต่างหู” ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากลายผ้าบาติกที่มีชื่อว่าลิมาร์ เกดาตน โดยลายนี้จะมีดาวสี่แฉกอยู่ตรงกลางล้อมรอบด้วยลายสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด ทั้งด้านบน และด้านล่างคล้ายรัศมี แสดงถึงพลังอำนาจที่แผ่กระจายออกไป, “ร่มพับสีขาว” ลวดลายที่ได้แรงบันดาลใจมาจากลายผ้าบาติกของเมืองอินดรามายู ในนิทรรศการผ้าบาติกในพระปิยมหาราช สายสัมพันธ์สยามและชวา โดยเมื่อโดนน้ำ หรือเปียกฝน ลวดลายที่สวยงามจะปรากฏออกมาจากกลางร่ม, “ร่มราชินี” ทรงร่มเป็นทรงเอกลักษณ์ของพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ เป็นลวดลายบ่งบองถึงวิถีชีวิตชาวเขา, “เครื่องประดับ” ได้แรงบันดาลใจจากเทคนิคลงรักปิดทอง ซึ่งเป็นเทคนิคโบราณ, “กระเป๋าคลัช” ประดับด้วยปีกแมลงทับ ปักด้วยมือโดยใช้เทคนิคเดียวกันกับช่างปักชุดโขน, “เสื้อเชิ้ตแขนยาว” สวมใส่สบาย ลายปารังรือสัก ลายจากผ้าบาติกสะสมในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ และ “รองเท้าทรงโลฟเฟอร์” สำหรับสุภาพบุรุษ โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากลวดลายของผ้าบาติก สามารถใส่ไปเที่ยวในลุคลำลอง หรือใส่ไปทำงานในลุคสมาร์ทได้ทั้งสองแบบ
นอกจากนี้ยังพบกับเวิร์คช้อปการทำผ้าบาติกสีสันจากธรรมชาติ (Batik Handkerchief) และวันที่ ๒๑ - ๒๒ และ ๒๘ - ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ พบกับเวิร์คช้อปการทำสายคล้องหน้ากากชาวเขา (Hill Tribe Craft Mask Strap) เมื่อซื้อสินค้าครบ ๑,๕๐๐ บาท รับสิทธิ์เวิร์คช้อปฟรี
พบกับความพิเศษครั้งนี้ ตั้งแต่วันนี้ ถึง ๖ มกราคม ๒๕๖๔ ณ CO-CREATION SPACE ชั้น ๓ สยามดิสคัฟเวอรี่ ดิเอ็กซ์พลอราทอเรี่ยม
No comments:
Post a Comment