นายสยาม ประสิทธิศิริกุล ประธานกลุ่มสนับสนุนธุรกิจ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กรุงศรี ให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ดิจิทัลและบริการที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง เทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นอย่างพิถีพิถันสามารถใช้งานได้จริง และยังต้องตอบโจทย์ความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้าธนาคารที่หลากหลายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโลกได้เคลื่อนตัวสู่สังคมไร้เงินสดและเศรษฐกิจดิจิทัล การเริ่มต้นด้วยระบบโครงสร้างพื้นฐานการเงินดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพและเหมาะกับบริบทของประเทศไทยนับเป็นสิ่งสำคัญ รวมถึงการเตรียมความพร้อมขั้นพื้นฐานให้กับประชาชนเกี่ยวกับสกุลเงิน rCBDC ที่จะมาช่วยให้การดำเนินชีวิตมีความสะดวกสบายและใช้จ่ายอย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น การศึกษาครั้งนี้จะเป็นการพัฒนาต่อยอดด้านสกุลเงินดิจิทัล CBDC สำหรับใช้งานจริงต่อไปได้อย่างเป็นรูปธรรม สอดคล้องกับการให้บริการแบบ beyond banking ที่กรุงศรีมุ่งเน้น”
การร่วมทดสอบการใช้งาน Retail CBDC กับธนาคารแห่งประเทศไทยครั้งนี้ เป็นการศึกษาและทดลองใช้งานในส่วนระบบพื้นฐาน (Foundation track) ในกลุ่มผู้ทดลองใช้งานจำนวน 10,000 ราย ที่สามารถควบคุมและติดตามการใช้งานในวงจำกัด โดยจะเริ่มทดสอบตั้งแต่ช่วงปลายปี 2565 จนถึงกลางปี 256
ในช่วงทดสอบการใช้งานในส่วนระบบขั้นพื้นฐาน (Foundation track) กรุงศรีได้มีการพัฒนาโมบายแอปพลิเคชันขึ้นโดยเฉพาะเพื่อรองรับกระเป๋าเงินดิจิทัลสำหรับ CBDC และมีแผนเพื่อหาโอกาสการพัฒนาฟีเจอร์ที่หลากหลาย เช่น ผู้ใช้งานสามารถเปิดกระเป๋าเงินดิจิทัลได้พร้อมกันหลายกระเป๋า ทั้งยังสามารถออกแบบ “Personalized CBDC wallet” เพื่อใช้ตามความต้องการของแต่ละบุคคล หรือ ออกแบบตามความต้องการของผู้ใช้งาน สามารถระบุเพื่อเจาะจงร้านค้าที่จะใช้งาน เช่น กระเป๋าเงินไปโรงเรียน สำหรับใช้จ่ายในโรงเรียน เป็นต้น โดยกรุงศรีจะเปิดให้ผู้ใช้งานทดสอบการใช้ชำระเงินในชีวิตประจำวัน กิน ช้อป เดินทาง เพื่อนำผลจากการทดสอบไปประมวลผลร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทยต่อไป
“สำหรับกรุงศรี การได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเข้าร่วมทดสอบการใช้งาน Retail CBDC สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางภาคประชาชนนั้น เป็นการตอกย้ำถึงสิ่งที่ธนาคารตั้งใจในการนำความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลและนวัตกรรมมาสนับสนุนการวางโครงสร้างพื้นฐานการเงินดิจิทัลให้มีประสิทธิภาพและเสถียรภาพเพียงพอเพื่อให้คนไทยทั้งระดับประชาชนทั่วไป ผู้ประกอบการทุกระดับตั้งแต่ธุรกิจขนาดใหญ่จนถึงขนาดย่อม ก้าวสู่ภูมิทัศน์การเงินแห่งโลกยุคใหม่ได้เต็มศักยภาพ ทัดเทียมกับประเทศที่พัฒนาและเริ่มทดสอบการใช้งานสกุลเงิน CBDC อย่างเป็นรูปธรรม อาทิ จีน ยูโรโซน สวีเดน กับการใช้งานสกุลเงิน rCBDC และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สิงคโปร์ หรือแคนาดา กับการใช้งานสกุลเงินดิจิทัลแบบ Wholesale CBDC เป็นต้น” นายสยาม กล่าวเสริม
“กรุงศรี เป็นธนาคารที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีแบบบูรณาการทั้งส่วนดิจิทัลและไอทีแบบคู่ขนาน โดยคำนึงถึงความต้องการใช้งานของลูกค้าเป็นสำคัญ (Customer Centricity) ส่งผลให้เราพัฒนาหรือออกผลิตภัณฑ์และบริการที่ช่วยให้ชีวิตลูกค้าสะดวกสบายมากขึ้น ช่วยลดภาระที่ไม่ควรเกิดขึ้นต่าง ๆ ทั้งค่าใช้จ่าย เวลา และความเสี่ยงจากขั้นตอนการทำธุรกรรมแบบทั่วไป เราเชื่อว่าเมื่อเราเอาใจใส่และเข้าใจสิ่งที่ลูกค้าต้องการ เราจะสามารถนำมาตีโจทย์เพื่อมอบสิ่งที่เหมาะสมกับลูกค้าได้อย่างแท้จริง” นายสยาม กล่าวปิดท้าย
No comments:
Post a Comment