วันที่ 20 ตุลาคม 2564 เวลา 13.30 น. นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เป็นประธานในพิธีถวายทุนการศึกษาโครงการสนับสนุนศาสนทายาทสืบสานและเผยแผ่พระพุทธศาสนา ภายใต้กองทุนส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ณ วัดโมลีโลกยาราม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร
นายอิทธิพล กล่าวว่า พระภิกษุ สามเณร ถือเป็นบุคลากรที่มีส่วนสำคัญต่อการสืบทอด เผยแผ่พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า รวมทั้งเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนได้ศึกษาเรียนรู้หลักธรรมทางศาสนาและนำไปปฏิบัติตามกรอบศีลธรรมอันดีงาม กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา ในฐานะผู้กำกับดูแลกองทุนส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ได้สนับสนุนการเผยแผ่พระพุทธศาสนาโดยส่งเสริมการศึกษาแก่พระภิกษุ สามเณร ให้มีโอกาสศึกษาพุทธธรรมในระดับที่สูงขึ้น ภายใต้โครงการสนับสนุนศาสนทายาทสืบสานและเผยแผ่พระพุทธศาสนา เพื่อส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและสร้างศาสนทายาทในการทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาที่มีคุณภาพมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๖ จนถึงปัจจุบัน
นายอิทธิพล กล่าวต่อว่า ด้วยพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่10 ทรงมีพระราชศรัทธาในบวรพระพุทธศาสนา และทรงสนพระทัยศึกษาธรรมะโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพระไตรปิฎก ได้มีพระราชปุจฉาเผดียงถามสมเด็จพระสังฆราชและพระเถรานุเถระ ว่า “จะส่งเสริมการเรียนการสอนพระบาลีอย่างไรให้เข้าถึงพระไตรปิฎก” เพื่อเป็นการจรรโลงบวรพระพุทธศาสนาให้ดำรงอยู่อย่างมั่งคง รวมทั้งรับสนองพระราชปุจฉาของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 กรมการศาสนา จึงได้ร่วมกับสำนักแม่กองบาลีสนามหลวง และวัดโมลีโลกยาราม จัดถวาย “ทุนการศึกษาสำหรับพระภิกษุสามเณร” แก่พระภิกษุหรือสามเณรที่สอบบาลีสนามหลวงได้ ในปีการศึกษา 2564
ตั้งแต่เปรียญธรรม 3ประโยค-เปรียญธรรม 8 ประโยค ในสำนักเรียนพระปริยัติธรรมแผนกบาลี โดยในส่วนกลาง จัดพิธีถวายทุนการศึกษา ณ วัดโมลีโลกยาราม จำนวน 300 ทุนๆ ละ 5,000 บาท ส่วนภูมิภาค 68 จังหวัด ดำเนินการตามบริบทของแต่ละพื้นที่ จำนวน 500 ทุนๆ ละ 5,000 บาท เพื่อสนับสนุนการศึกษาแก่พระภิกษุ สามเณร ให้เป็นผู้มีความรอบรู้และแตกฉานในพระธรรมวินัย ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ จนสามารถเข้าถึง แก่นแท้ของพระพุทธศาสนาได้ด้วยตนเอง สามารถนำไปปฏิบัติอย่างถูกต้อง และนำหลักธรรมคำสอนทางศาสนาไปอบรมสั่งสอนแก่พุทธศาสนิกชนได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน จะช่วยให้พุทธศาสนิกชนเกิดความเลื่อมใสศรัทธาในศาสนทายาท และนำหลักธรรม คำสอนทางศาสนา ไปเป็นหลักในการดำเนินชีวิต ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่สำคัญประการหนึ่งในการเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่สถาบันศาสนาให้ดำรงอยู่คู่สังคมไทยอย่างยั่งยืน
No comments:
Post a Comment