หลายคนพูดกันถึง...สามที่สุด ว่าถ้าอยากเห็นให้ไปที่ นครพนม สามที่สุดที่ได้รับการกล่าวขาน ที่สุดแรกคือ...ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด....ต้องมากราบพระธาตุพนม
สะพานมิตรภาพไทย – ลาว (แห่งที่ 3) ที่สวยที่สุดอยู่ที่นี่ และ ริมโขงที่สวยที่สุดต้องริมโขงนครพนม เมื่อคำร่ำลือเป็นแบบนี้จะอยู่ทำไมกรุงเทพฯ ต้องไปพิสูจน์ เมืองสามที่สุด...นครพนม
เราพร้อมชาวคณะและผู้สื่อข่าว ออกเดินทางตอนเช้าตรู่นั่นคือตีห้าครึ่ง เพราะการเดินทางวันนี้ยาว..ไกลถึงริมโขง ทานอาหารเช้าบนรถเพื่อไม่ให้เสียเวลามุ่งตรงไปโคราช ปากประตูไปสู่อิสาน แล้วตรงดิ่งไปขอนแก่น เมืองดอกคูณ เสียงแคน แวะทานอาหารกลางวันอิ่ม...อร่อยที่ร้านภัทรา แล้วรีบเดินทางต่อตรงไปสกลนคร ก่อนเข้าเมืองนครพนมแวะกราบพระธาตุมหาชัย สำหรับคนเกิดวันพุธกลางวัน ขอพรให้เดินทางปลอดภัย แล้วตรงไปริมโขง โรงแรมฟอร์จูนริมโขง ที่ผู้จัดการพร้อมด้วยพนักงานรอต้อนรับอยู่แล้ว เวลคัมดริ๊งค์ถูกนำมาเสริฟก่อนจะแยกย้ายขึ้นห้องพักที่ถูกจัดเตรียมไว้ เปลี่ยนเสื่อผ้าชุดใหม่ลงมาที่ห้องอาหารของโรงแรม ที่มองเห็นวิวแม่น้ำโขงยามค่ำที่อีกฟากหนึ่งระยิบระยับไปด้วยแสงไฟ เหมือนจะรอต้อนรับเราและชาวคณะที่ห้องอาหาร ผอ.ททท.สำนักงานนครพนม (ผอ.เสาวนีย์ คนกล้า) พร้อมทีมงานรอต้อนรับอยู่แล้ว อาหารค่ำที่แสนอร่อยวันนั้น ททท.สำนักงานนครพนมเป็นเจ้าภาพจัดเลี้ยงพร้อมด้วยของที่ระลึกแจกชาวคณะ ผู้โชคดี
ผอ.เล่าว่านครพนมวันที่เรามาตรงกับวันงานกราบนมัสการพระธาตุนครพนมพอดี คนจะแน่นและหาที่จอดรถยากหน่อย แต่ด้วยความศรัทธาและความตั้งใจ เราและชาวคณะไม่มีใครยอมถอย
ผอ.เล่าต่อว่า นครพนมวันนี้ มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศมาเที่ยวมากขึ้น ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นและแนะนำให้พวกเราไปกราบพระธาตุ เพราะที่นี่มีพระธาตุประจำวันเกิด สำหรับผู้ที่เกิดตั้งแต่วันอาทิตย์ คือ พระธาตุพนม จนถึง คนเกิดวันเสาร์ คือ พระธาตุนคร ส่วนวันอื่นๆ ได้แก่ พระธาตุเรณูนคร สำหรับคนเกิดวันจันทร์ พระธาตุศรีคูณ สำหรับคนเกิดวันอังคาร ส่วนวันพุธจะมีพระธาตุมหาชัย สำหรับพุธกลางวันและพระธาตุมรุกขนคร สำหรับพุธกลางคืน ส่วนวันพฤหัสบดี เป็นพระธาตุประสิทธิ์ วันศุกร์จะเป็นพระธาตุท่าอุเทน ใครเกิดวันไหนตรงไปได้เลย
อิ่มจนพุงเริ่มป่องกับอาหารอร่อยที่ ผอ.ททท.จัดเลี้ยง ก่อนจะแยกย้ายกลับไปนอนหลับฝันดี
เช้าวันที่สองของการเดินทาง เราตรงไปกราบขอพรองค์พญาศรีสัตตนาคราช ที่ริมแม่โขง ที่นี่มีผู้คนมากมาย รวมทั้งนักท่องเที่ยวมากราบของพรและขอตัวเลขของแบบนี้โชคใคร......โชคคนนั้น แข่งกันไม่ได้จริงๆ แล้วตรงไปสำนักงาน ททท.ที่ลือกันว่าสวย และก็สวยสมคำร่ำลือจริงๆ เราพร้อมชาวคณะมาถ่ายรูปกับ ผอ. และ เจ้าหน้าที่ของ ททท. ก่อนจะเดินทางต่อไป เพื่อไปกราบพระธาตุพนม
วันนี้รอบๆ องค์พระธาตุพนมมีร้านรวงมากมาย ตั้งเรียงรายติดๆ กัน คนแน่นมาก เพราะทุกคนตั้งใจเหมือนๆ กัน คือ มากราบองค์พระธาตุพนม ที่สุดของความศักดิ์สิทธิ์
ด้วยความที่คนเยอะและกลัวหลงเราอธิษฐานและขอพระว่า “ขอให้ลูกเดินทางกลับไปที่รถอย่าเดินหลงเลย และ เมื่อถึงกรุงเทพฯ ขอให้ได้ข่าวดีเรื่องงาน ที่กำลังรออยู่ด้วยเถิด สาธุ”
เดินกลับออกมาผ่านคนมากมาย แบบ..ไม่หลง กลับมาที่รถอย่างสบายๆ และเมื่อถึงรถ มือถือก็ดังขึ้น ข่าวดีเรื่องงานมาแล้วจริงๆ สาธุ สาธุ สาธุ
ผอ.กรมชลประทานนครพนมโทรมาถามว่า อยู่กันที่ไหน อาหารพร้อมแล้ว ในขณะที่รอชาวคณะ เรากับช่างภาพจึงเดิน (เท้า) ไป พบ ผอ.กรมชลประทานนครพนมก่อน ที่ร้านอาหารดาวทอง (ผอ.สัมพันธ์ เดือนศิริรัตน์ ผอ.โครงการชลประทานนครพนม) ผอ.ใจดีของทุกคนรอต้อนรับอยู่แล้ว พร้อมอาหารเวียดนามขึ้นชื่อของที่นี่...เต็มโต๊ะ ไม่อิ่มจนตัวแตกก็ให้รู้ไป ทั้งแหนมเนือง เฝอหมูยอ ข้าวเกรียบปากหม้อญวน ก๋วยจั๊บญวน อิ่มจนหลายคนบอกว่า......อิ่มตัวแตก
จากนั้นเดินทางตรงไปที่ประตูระบายน้ำธรมิศนฤมิตร หนึ่งในโครงการการพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่มีความหมายว่า ประตูระบายน้ำที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำริให้จัดสร้างขึ้น โดยมี ผอ.สัวสดิ์ นาคสุทธิ์ ผอ.โครงการประตูระบายน้ำ น้ำก่ำ มารอต้อนรับและบรรยายถึงที่มาของโครงการ เราทุกคนได้เห็นลายพระหัตต์ที่คนกรมชลเรียกว่า “ตัวยึกยือ” ที่ในหลวงรัชการที่ 9 มอบให้กรมชลประทาน และกระดาษแผ่นนั้นถูกเก็บรักษามาไว้อย่างดี ตัวยึกยือประกอบไปด้วย ส่วนหัว หมายถึง หนองหานที่เป็นหนองน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ ต้นกำเนิดของลำน้ำก่ำ ส่วนกระดูกสันหลัง หมายถึง ลำน้ำก่ำ ข้อที่เป็นปล้องๆ หมายถึง อาคารบังคับน้ำ ขอบลำตัว หมายถึง คอลงระบายน้ำ และส่วนหาง หมายถึง แม่น้ำโขง
จากแนวทางพระราชดำรินี้ จึงเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง ในบริเวณสองฝั่งลำน้ำก่ำ ให้มีน้ำใช้เพื่อการเกษตร การอุปโภค บริโภค ได้ตลอดทั้งปี (ที่มาเอกสารโครงการพัฒนาลุ่มน้ำก่ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดสกลนคร – นครพนม)
พอได้เวลาจึงกล่าวขอบคุณ สำหรับความรู้และที่ได้รับจากกรมชลประทานในวันนี้ และพร้อมจะนำความรู้ไปเผยแพร่ต่อไป
จากกประตูระบายน้ำ เราตรงไปริมแม่น้ำโขงเพื่อล่องเรือและรับประทานอาหารเย็นในเรือ โดยมี ผอ.สัมพันธ์ (ผอ.ใจดีที่ชาวคณะเป็นผู้ตั้งขึ้น) เป็นเจ้าภาพเลี้ยงรับรองอาหารอร่อย วิวสวย และยังมีของที่ระลึกแจก ไม่เรียกใจดีก็ไม่รู้จะเรียกอะไรแล้ว
วันรุ่งขึ้นเราล่ำลานครพนมพร้อมสัญญา (ในใจ) ว่า...จะกลับมาอีก
จากนั้นตรงเข้าสู่อุดรธานี ปักหลักพักค้างที่โรงแรมอัมมาน 1 คืน และเช้าตรู่เราทั้งหมดจึงตรงไปเที่ยวทะเลบัวแดงที่วันนี้ยังคงสวยเต็มบึง สนุกกับการล่องเรือ ถ่ายรูป และเมื่อได้เวลาตรงเข้าสู่กรุงเทพมหานคร
ขอยืนยันว่า....สามที่สุด ที่สุดอย่างคำร่ำลือจริงๆ และขอเพิ่มที่สุด...คือประทับใจที่สุด สำหรับทริปนี้จริงๆ ขอขอบคุณ ททท.สำนักงานนครพนม กรมชลประทานสำนักงานนครพนม โครงการประตูระบายน้ำธรณิศนฤมิตร โรงแรมฟอร์จูนริมโขง และเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ให้การต้อนรับ
อย่าลืมแวะซื้อกาละแมร้านพรประเสริฐมาชิมนะ อร่อยจริงๆ (ไม่ได้ค่าโฆษณานะรับรอง เพราะต้องซื้อถุงละ 100 เหมือนกัน)
No comments:
Post a Comment